TGPRO โชว์งบงวด 9 เดือนรายได้รวม 1,459.48 ล้านบาท กำไร 47.42 ล้านบาท
TGPRO เผยผลประกอบการงวด 9 เดือน รายได้รวม 1,459.48 ล้านบาท กำไร 47.42 ล้านบาท มองไตรมาส 4/65 แนวโน้มดีขึ้น มุ่งเน้นการขายสินค้ามาร์จิ้นสูง ตลาดต่างประเทศเดินหน้าเจรจาพันธมิตรสหรัฐฯส่งออกสินค้าอัพยอดขายท่ออุตสาหกรรมอาหาร ตลาดในประเทศขยายสินค้าท่ออุตสาหกรรมน้ำแข็ง บอร์ดไฟเขียวจับมือพันธมิตรธุรกิจกัญชง-กัญชา มั่นใจรายได้ปี 65 ตามเป้าหมาย 1,800 ล้านบาท
นายรชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGPRO ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส ภายใต้เครื่องหมายการค้า “TGPRO” เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,459.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,287.38 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 47.42 ล้านบาท ลดจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 57.32 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้รวม 477.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 474.22 ล้านบาท และ มีขาดทุนสุทธิ 3.85 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 31.76 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการงวด 9 เดือน รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากภาพรวมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศที่มีปริมาณความต้องการมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 3/65 ปรับตัวลดลงจากค่าใช้จ่ายการในบริหาร อาทิ ราคาวัสดุ ค่าเสื่อมราคา รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมียอดขายที่บริษัทจะรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท่อสเตนเลสเกรดพิเศษที่มีมาร์จิ้นสูงในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ อาทิ ท่ออุตสาหกรรมอาหาร, ท่อสเตนเลสแบบไร้ตะเข็บ (Seamless Pipe) และ ท่อสเตนเลสแรงดันสูง โดยเฉพาะพันธมิตรผู้ดำเนินธุรกิจท่อสเตนเลสในประเทศสหรัฐฯที่มีคำสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2566
อีกทั้ง บริษัทเดินหน้าขยายตลาดลูกค้าภายในประเทศด้วยสินค้ามาร์จิ้นสูงที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้แก่ ท่ออุตสาหกรรมน้ำแข็ง เพื่อเพิ่มรายได้และกำไร ต่อยอดจากสินค้าท่อ สเตนเลสในอุตสาหกรรมโรงงานน้ำตาล ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท นอกจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนราคาเหล็กเพื่อรักษาอัตรากำไรที่ดีต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจต่างๆ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครือ ยังคงดำเนินได้ตามแผนงาน อาทิ ร้านทูเดย์สเตนเลส มีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวมสาขาการให้บริการทั้งหมด 5 สาขา
นอกจากนี้ ที่ประชุมบริษัทมีมติอนุมัติความร่วมมือระหว่างบริษัท เวิลด์ คลาส สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด (บริษัทย่อย) กับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อดำเนินงานเพาะปลูกและจัดจำหน่ายกัญชง-กัญชา โดยจะเริ่มดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2565
“จากสถานการณ์ต่างๆ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ราคาต้นทุนเหล็กและน้ำมันสำหรับบริการการขนส่งมีความผันผวนและยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนดังกล่าวอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าขณะนี้บริษัทได้ผ่านช่วงต่ำสุดมาแล้ว ทั้งในแง่การจัดการต้นทุนและการดำเนินธุรกิจ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลประกอบการทั้งปี 2565 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 1,800 ล้านบาท” นายรชต กล่าวเพิ่มเติม